ใครไม่หมิง #คุนหมิง Part1 : เตรียมตัวก่อนไปจีน (คุนหมิง)
จีน (หรือชื่อเต็ม สาธารณรัฐประชาชนจีน) เป็นประเทศหนึ่งของเอเชียที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด ส่งผลให้จีนเต็มไปด้วยภูมิทัศน์สวยงามและน่าไปเยือนสักครั้ง อย่าง "จางเจี่ยเจี้ย" (Zhangjiajie) สถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องดังอย่าง Avatar "จิ่วไจ้โกว" หรือ "แชงกรีล่า" และนอกจากนี้ด้วยอารยธรรมที่ยาวนานทำให้จีนมีสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างมากมายที่น่าไปเยือนไม่ต่างจากธรรมชาติอันสวยงาม ที่ขึ้นชื่อที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น "กำแพงเมืองจีน" และ "พระราชวังต้องห้าม" เป็นต้น
สนามบินคุนหมิง
อย่างไรก็ตามด้วยความที่จีนเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมและมีการพัฒนาในแนวทางของตนเอง ทำให้จีนเองนั้นค่อนข้างที่จะปิด หรือมีระบบภายในของตัวเองที่ต่างออกไปในบางเรื่อง การไปเยือนจีนสำหรับเราจึงต้องมีการเตรียมตัวอยู่บ้าง เพราะแอพประจำของเราหรือ services บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศจีนนั่นเอง
ดังนั้นแล้ว บทความนี้จึงมานำเสนอการเตรียมตัวก่อนไปเยือนเมืองจีนในแบบของเรา สำหรับเรากรณีนี้ คือ เราไปคุนหมิง ช่วงต้นสิงหาคม ก็จะมีรายละเอียดการเตรียมตัวดังนี้
1. เวลา
เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มาก ในแต่ละส่วนอาจมีช่วงเวลาที่ไม่ตรงกัน สำหรับเรารอบนี้เราไปคุนหมิง เวลาเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมงพอดี
2. สภาพอากาศ
ควรตรวจเช็คสภาพอากาศของเมืองที่เราจะไป ของเราคุนหมิงอากาศกำลังเย็นๆดี ประมาณ 18 - 23 องศาเซลเซียส สามารถใส่เสื้อยืดกางเกงยีนได้แบบเย็นๆ เพราะยังอยู่ในห้าง แดดร้อนแรง พอรวมกันด้วยอากาศที่เย็นแต่แดดแรงทำให้เราลุยแดดเพลิน รู้ตัวอีกทีอาจดำได้ และเป็นช่วงหน้าฝนพอดี จงพกร่มไปเป็นคำแนะนำด้วยความหวังดี
อาหารจีนแบบแท้ๆ ไม่เหมือนอาหารจีนบ้านเรา อาหารจีนที่นั่นเป็นอาหารจีนแบบ จืดและมัน รสชาติที่พอจะปรุงแต่งได้ด้วยเครื่องปรุงบนโต๊ะเมนหลักๆ คือ เค็มกับเผ็ด นอกนั้นหายาก น้ำตาลต้องร้องขอ (และคนจีนแปลกใจที่เรากินก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำตาล) อเมริกันเบรคฟาสที่ไร้ซอสมะเขือ และคนที่นู่นกินของที่หน้าตาเหมือนเต้าหู้ทอดจิ้มพริกป่นซึ่งเราถึงกับตะลึง ดังนั้นคำแนะนำอย่าง Strongly Recommended คือพกอาหารไทยไปด้วย (กรณีที่ไปอบรมนานแบบเรา) มาม่าต้มยำ กับข้าวสำเร็จรูปซอง พริกน้ำปลา น้ำพริกเผา หรืออะไรก็ตามที่ท่านจะประทังชีพตลอดช่วงเวลาที่นั้น อ้อ มีสิ่งหนึ่งที่เยียวยาจิตใจ (และกะเพาะ) เราได้มากๆ คือ เป็ดย่าง ดีงามและหนังกรอบแทบไม่มีมัน
เบียร์ 2 ขวดในรูปนี้รสชาติดีเลย
เป็ดย่างดีงาม
นี่เป็นเยลลี่เสาวรส คนจีนแนะนำเราว่าเป็นขนมแบรนด์ท้องถิ่น อร่อยดีเลยหละ
คนจีนก็ใช้เงินหยวนนั่นแหละ (CNY) ซึ่งบางทีเค้าเรียกว่าสกุล RMB (Renminbi) ไม่ต้องงง อันเดียวกัน เวลาแลกเงินไปจากไทยมองหา CNY ได้เลย ข้อควรระวัง คือ ที่จีนเป็นสังคมไร้เงินสดแล้วแทบทุกอย่างจ่ายได้ด้วย QR code Wechat หรือ AliPay ดังนั้นถ้าคุณเอาแบงค์ใหญ่ไป อาจไม่มีเงินทอน อีกข้อ คือ ระวังแบงค์ย่อยปลอม (อันนี้ที่แลกเงินเตือนเรามา คือตอนเราแลกเงินไปเค้าจะมีปั๊มเล็กๆไว้ว่าเป็นเงินที่แลกมาจากเค้า สามารถเอามาแลกคืนกับเค้าได้เมื่อกลับไทย แต่ถ้าไม่มีตราปั๊มของเค้าเค้าจำเป็นจะต้องตรวจสอบ ซึ่งมีหลายคนโดนสลับหรือทอนแบงค์ปลอมมาทำให้มีปัญหาตอนแลกคืน ยังไงก็พยายามระวังหูไวตาไวหน่อย)
5. การสื่อสาร
คนจีนใช้แอพ WeChat ดังนั้นหากต้องไปอยู่นานหรือต้องติดต่อกับชาวจีนระหว่างอยู่ที่นั่น ควรมี Account WeChat ไป โดยติดตั้งแอพไปเลยจากไทยและสมัครให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปหาคนจีนที่นู่น Verify ให้ (ใช่ Wechat ต้องให้ User เดิมอายุอย่างน้อย 1 เดือน มา verify ให้ User ใหม่ จึงจะสามารถใช้งาน User ใหม่ได้) และแอพประจำของชาวเราอย่าง Line, FaceBook ถูกบล็อคในจีน วิธีการคือ วิธีแรกซื้อ Sim2Fly ไปจากไทย เนตของ Sim2Fly สามารถเล่นเฟสและไลน์ได้เลย วิธีที่ 2 คือการต่อ VPN ซึ่งจะทำให้สามารถใช้เนตโรงแรมเล่นเฟสบุค ไลน์ เช็คอีเมล์หรือเล่นเกมได้ จะไปซื้อซิมที่นู่นก็ได้ ราคาถูกกว่า แต่เล่นไลน์กะเฟสบุคไม่ได้นะ
6. ปลั๊กไฟ
สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าปลั๊กไฟที่นู่นเป็นแบบไหน ก็เป็นขาแบน 2 ขาเหมือนไทยนะ ตามรูปเลย
7. การเดินทาง
ในคุนหมิงมีรถบัสราคาย่อมเยาว์ (ถูกมาก เที่ยวละ 2 หยวน ปัดขึ้นกลมๆก็ 10 บาทเอง ถูกกว่าที่ไทยอีก) หรือไม่งั้นก็มีแท็กซี่วิ่งให้เรียกตลอด 24 ชั่วโมง แต่คนขับพูดภาษาจีน อาจจะต้องยื่นแผนที่หรือรูปให้ดู ราคาไม่แพง (เรตถูกกว่าไทย) และคิดราคาตามมิเตอร์ ตัวเลือกสุดท้ายคือการขี่จักรยานที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน วิธีการคือแสกน QR Code และจ่ายเงินผ่านแอพก็จะสามารถปลดล็อกจักรยานมาขี่ได้ในราคาชั่วโมงละ 2 หยวน มีเลนจักรยานให้วิ่ง ไม่ปะปนกับรถยนต์ ดูปลอดภัยดี
จักรยานที่วางให้เช่าอยู่ทั่วไป
ป้ายรถเมล์ในคุนหมิง เป็นเอกลักษณ์มาก
ถ้ามีป้ายนี้คือรถว่างโบกเรียกได้เลย
8. ของฝาก
ชาผู่เอ๋อ (Puer Tea) เป็นชาของที่นี่ ลักษณะน่าจะเป็นชาดำ หอมดี เหมาะแก่การนำมาเป็นของฝาก ซึ่งตามร้านมักจะมีมุมชงชาให้ชิมก่อนเลือกซื้อที่ถูกใจกันด้วย
สำหรับอันที่ (คนจีน) แนะนำและเราลองชิมก็โอเคด้วยคือตัวนี้
9. แอพเพื่อความสะดวกสบายของชีวิต
ไล่จากซ้ายไปขวา :
1. BullVPN อันนี้ไว้สำหรับ VPN เวลาที่จะใช้เนตโรงแรมทำงานหรือเล่นไลน์ เล่นเฟสบุค ดูหนัง เป็นต้น แอพนี้ต้องเสียเงินโดยสมัครแล้วเลือกช่วงเวลาที่จะใช้บริการ VPN แล้วจ่ายเงินในแอพ แพ็คเกจที่เราใช้ คือ 90 บาท 16 วัน ซึ่งก็โอเค ครอบคลุม
2. Google Translate ไว้สำหรับแปลภาษาจีนเวลาดูทาง (ซึ่งหลายๆแหล่งท่องเที่ยวมีป้ายภาษาไทยด้วย ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ) หรือไว้เวลาที่เราจะซื้อของแต่อ่านฉลากไม่ออก ข้อดีคือสามารถเปิดกล้องถ่ายรูปแล้วยกส่องแปลภาษาได้เลย
3. WeChat ไว้คุยกับเพื่อนคนจีน หรือเจ้าถิ่นเผื่อถามทางหรือให้เค้าคุยกับคนจีนคนอื่นให้
4. maps.me แอพแผนที่ยอดนิยมของเรา เนื่องจากในจีน Google Map ใช้งานไม่ค่อยได้ maps.me จึงสามารถใช้เป็นแอพสำหรับนำทางได้ (ใช้ได้แบบออฟไลน์ด้วย สะดวกมาก) แต่ต้องโหลดแผนที่ลงในแอพก่อน ทำล่วงหน้าตอนยังอยู่ที่ไทย
เป็นอันครบถ้วนกระบวนการเตรียมตัวและคำแนะนำเบื้องต้นจากเรา ต่อไปจะเป็นการรีวิวสถานที่เที่ยวต่างๆที่ได้ไปมา โปรดติดตาม...
*ในขณะที่เขียนบทความนี้ (16 สิงหาคม 2019) เป็นช่วงที่เกิดการประท้วงที่ฮ่องกงอันเนื่องมาจากกรณีกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการไปเยือนจีนบ้างไม่มากก็น้อย (อนึ่งจากที่เราไป พบว่ามีตำรวจหรือทหาร ไม่แน่ใจ ประจำการอยู่ในจุดต่างๆและเข้มงวดมากที่บริเวณสนามบิน) แต่ก็ยังอยู่ในวิสัยที่พอไปได้ และสายการบินหลายสายจัดโปรลดราคาตั๋วเครื่องบินไปเมืองจีนในราคาถูกด้วยช่วงนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น