แนะนำสถานที่จริงของ "Game of Throne" !!

"Game of Throne" เป็นซีรี่ส์ดังมากๆ ที่เล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเลือดและการทรยศ ชิงเหลี่ยมไหวพริบในช่วงระหว่างสงครามและการเปลี่ยนผ่านของตระกูลต่างๆในดินแดนเวสเทอรอส มีตัวละครกว่า 1500 ตัวใน 7 ซีซั่นแรก ซึ่งนอกจากความสนุกสนานของเรื่องราวที่ให้ติดตามแล้ว ในระหว่างตอนยังเต็มไปด้วยฉากถ่ายทำที่สวยงามและแปลกตา จากสเปนถึงโครเอเชีย ไอซ์แลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ และในเนื้อหาต่อไปนี้อาจมีสปอยล์บ้าง สำหรับใครที่ยังดูไล่มาไม่ครบหรือไม่เคยดู ก็ถือว่าเราเตือนแล้ว...

Season7

Vík ประเทศ Iceland (Eastwatch-by-the-Sea)

Reynisfjara และชายหาดสีดำแห่งเมือง Vík นี้เป็นฉากให้กับปราสาทด้านสุดขอบตะวันออกของ the Wall ที่ซึ่งเสาน้ำแข็งยักร่วงหล่นลงสู่ทะเล และไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหาด Reynisfjara เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวมหากาพย์ เพราะชายหาดแห่งนี้ยังเป็นฉากถ่ายทำของดาว Eadu ใน Star Wars' Rogue One ด้วย บริเวณนี้ตั้งอยู่ใต้สุดของไอซ์แลนด์ ราว 2 ชั่วโมงครึ่งจากเมืองหลวง Reykjavik

หาด Itzurun ประเทศสเปน (Dragonstone)

สเปนเป็นที่ถ่ายทำฉากสุดท้ายของตอนเริ่มซีซั่น7 ฉากที่แดเนรีส ทาเกเรียน มาขึ้นฝั่งพร้อมกับกองทัพโดรทรากี วารีส และทีเรียน ที่ Dragon Stone หลังจากที่ข้ามทะเล Narrow Sea มา หาด Itzurun นี้เป็นจุดแรกในเรื่องที่ได้ต้อนรับ แม่มังกรกลับสู่เวสเทอรอส

ภูเขา Kirkjufell ประเทศ Iceland (Arrowhead Mountain)

ซีซั่น7 เป็นอีกครั้งที่มีฉาก Arrowhead Mountain หลังจากที่มีฉากที่เด็กแห่งพงไพร (Children of the Forest) สร้าง ไวท์ วอร์คเกอร์ ขึ้นมาในซีซั่น6 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์นี้เป็นฉากหลังให้ จอน สโนว์ และคณะเผชิญหน้ากับไนท์ คิง ซึ่งที่นี่เองยังเป็นจุดสำคัญในการมาเฝ้าดูแสงเหนือของนักท่องเที่ยวและเป็นฉากหลังของภาพแสงเหนือสวยๆมากมาย

Itálica ประเทศ Spain (King's Landing Dragonpit)

ตัวละครสำคัญๆของเรื่องมาพบกันครั้งแรกในฉาก ณ สถานที่แห่งนี้ แลนนิสเตอร์ ทาแกเรียน เกรจอยส์ มังกร และไวท์ วอร์คเกอร์ ณ ซากโบราณของอาณาจักรโรมันเดิมทำหน้าที่เป็น Dragonpit แห่ง คิงส์ แลนดิ้ง ทีมถ่ายทำต้องเซ็ตฉากอย่างระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับโบราณสถานแห่งนี้ซึ่งเคยจุคนดูได้มากถึง 25,000 คน

Los Barruecos ประเทศ Spain (Loot Train Attack)

ห่างออกมาราว 3 ชั่วโมงจากมาดริด Los Barruecos เป็นฉากหนึ่งที่เจ๋งและชวนติดตามของซีซั่น7 เลย ทุ่งกว้างและโขดหินเป็นฉากประกอบให้กับครั้งแรกที่แดเนริส ใช้มังกรเข้าเผชิญหน้ากับแลนนิสเตอร์เป็นครั้งแรก ในเรื่องจะเต็มไปด้วยกองทัพและมังกรพ่นไฟออกเต็มทุ่ง

Castillo de Almodóvar del Río ประเทศ Spain (Highgarden)

ปราสาทสเปนที่ปรากฏในซีซั่น7 ป้อมปราการของตระกูลไทเรลแห่งไฮร์ การ์เดน แต่เปิดฉากมาก็ถูกแลนนิสเตอร์ยึดเรียบร้อย

Season6

Bardenas Reales ประเทศ Spain (Dothraki Sea)

บริเวณรกร้างว่างเปล่ากว่า 104,000 เอเคอร์นี้ดูเหมือนดินแดนจากดาวดวงอื่น เต็มไปด้วย ดิน ชอล์ค และหินทรายที่ผ่านกระบวนการกว่าศตวรรษใต้อิทธิพลของลมและน้ำ บางส่วนยังคงมีต้นไม้ขึ้นได้บ้าง เป็นฉากของ Dothraki Sea บนทวีป Essos

อ่าว Ballintoy ประเทศ Ireland (Iron Islands)

Ballintoy เป็นฉากของเกาะเหล็ก ที่ที่ ธีออน เกรจอยส์ กลับมาพบกับพี่สาว คือ ยาราห์ เกรจอยส์ และมีการคาดการณ์กันว่าจะได้เห็นฉากชายฝั่งหินของไอร์แลนด์ในบทบาทเกาะเหล็กนี้อีกครั้งในซีซั่นสุดท้ายเมื่อพวกเกรจอยส์ต้องมาจัดการเรื่องราวของบัลลังค์ของเกาะเหล็ก

Castillo de Zafra ประเทศ Spain (Tower of Joy)

Tower of Joy ซึ่งเกี่ยวพันกับ ลีอานนา สตาร์ค ซึ่งมีการบอกใบ้และคาดเดากันมาตลอดเรื่อง (R + L = J) ตั้งอยู่ระหว่างมาดริดและบาเซโลนา

Season5

Alcázar of Seville ประเทศ Spain (ปราสาท Sunspear แห่ง Dorne)

Alcázar of Seville แห่งแคว้นอันดาลูเซียที่มีชื่อเสียงของสเปน พระราชวังอันหรูหราซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง แม้ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ทีมถ่ายทำมีโอกาสในการใช้สถานที่ครึ่งนึงในการถ่ายทำฉาก Dorne อาณาจักรใต้สุดของเวสเทอรอส Alcázar เหมาะในการเป็นพระราชวัง Sunspear ของ Dorne ด้วยบรรยากาศสำหรับเป็นพระราชวังฤดูร้อนของตระกูลมาเทล

Osuna ประเทศ Spain (Daznak's Pit)

ถัดมาทางตะวันออกราวหนึ่งชั่วโมงจากเมืองเซวิลล์คือที่ตั้งของเมืองเล็กๆแต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่าง Osuna ที่มีประชากรเพียง 18,000 คน ซึ่งใช้สนามกีฬาเป็นสถานที่ที่แดเนรีสจัดการกับเหล่านายทาสแห่งมีรีน ใช้เวลาในการถ่ายทำฉากนี้ฉากเดียวนานถึง 12 วัน

Šibenik ประเทศ Croatia (Braavos)

ฉากการผจญภัยของ อาร์ยา สตาร์ค ในบราวอสนอกเหนือจากในวิหารถ่ายทำตามตรอกทางเดิน กำแพงหิน และจตุรัสในย่านเมืองเก่าแห่ง Šibenik ของ Croatia แห่งนี้

Season3

Grjótagjá ประเทศ Iceland (ถ้ำของ Jon Snow กับ Ygritte)

ใกล้กับทะเลสาบ Mývatn ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ Grjótagjá เป็นถ้ำภูเขาไฟเล็กๆ ซึ่งเป็นฉากระหว่างที่ Jon Snow พักค้างคืนกับ Ygritte

Ait Ben Haddou ประเทศ Morocco (Yunkai)

Yunkai ตามเนื้อเรื่องเป็นอีกหนึ่งเมืองที่แดเนรีสปลดปล่อยเหล่าทาส ในความเป็นจริง Ait Ben Haddou เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Marrakech กับทะเลทรายซาฮาร่า เป็นจุดแวะพักสำคัญของกองคาราวานก่อนจะข้ามทะเลทรายและหลังจากข้ามทะเลทรายกลับมาได้แล้ว

Vatnajökull ประเทศ Iceland (Beyond the Wall)

Vatnajökull  ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ Reykjavik เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ดังที่ปรากฏในเนื้อเรื่องว่าเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าผู้อยู่นอกกำแพง และไวท์ วอคเกอร์

Trsteno ประเทศ Croatia (สวนในพระราชวังแห่ง King's Landing)

จุดถ่ายทำฉากที่ โอเลนนา ไทเรล นั่งอยู่ในสวนราชอุทยานแห่ง King's Landing อยู่ห่างจากเมืองดูรอฟนิคเพียง 20 นาที

Season2

หอคอย Minčeta เมือง Dubrovnik ประเทศ Croatia (House of the Undying)

จุดที่สูงที่สุดของกำแพงเมืองดูรอฟนิค หอคอยนี้เป็นฉากของ the House of the Undying แห่งเมือง  Qarth ในซีซั่น2 แดเนรีส ทาแกเรียน เข้ามาตามหาลูกมังกรของเธอ แต่ถูกจับตัวไปโดยเหล่า warlocks ซึ่งภายหลังถูกมังกรน้อยย่างสดทั้งเป็น

ย่านเมืองเก่า Dubrovnik ประเทศ Croatia (King's Landing)

Game of Throne ทำให้ดูรอฟนิคกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ King's Landing อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ซีซั่น2 นักท่องเที่ยวที่อยากตามรอยสามารถเดินตามทางที่ Cersei เดินผ่านฝูงชนและเสียงโห่ได้โดยเริ่มจากโบสถ์ St. Ignatius of Loyola หรือเดินเล่นผ่านประตู Pile Gate ซึ่งเป็นทางเข้าย่านเมืองเก่าของ King's Landing

Season1

Magheramorne Quarry ประเทศ Ireland (ปราสาท Castle Black และ North of the Wall)

ในซีซั่นแรก ที่นี่เป็นฉากของปราสาท Castle Black ซึ่งต้องใช้ CGI ในการสร้างกำแพงให้ดูสูงตระหง่าน และในซีซั่น2 เป็นฉากในการต่อสู้ที่ King's Landing และซีซั่น5 เป็นฉากหมู่บ้านประมงของบริเวณเหนือกำแพง ซึ่งถูกไวท์ วอคเกอร์ จู่โจม

Dark Hedges, Ballymoney ประเทศ Ireland (King's Road)

ต้นบีชตลอดรายทางถนนแห่งนี้อยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และกลายเป็นเสมือนรั้ว ซึ่งไม่ใช่อะไรที่เรา หรือแม้แต่ทีมหาสถานที่ของกองถ่ายเคยพบเห็น นี่เป็นฉาก King's Road  ที่ปรากฏเพียงไม่กี่ตอนตลอดซีซั่น  และกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวจนทางรัฐบาลประกาศไม่ให้ยานพาหนะที่ไม่จำเป็นวิ่งผ่านบนถนนเส้นนี้ตั้งแต่ ตุลาคมปี 2017  แต่ยังคงสามารถเดินท่องไปได้ระหว่างตามทางหากต้องการ


Cr: cntraveler.com

ความคิดเห็น