วิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส ก่อนไฟไหม้ : ประวัติศาสตร์มิอาจถูกลืมเลือนผ่านภาพถ่าย


เดือนเมษายน 2019 ช่วงสงกรานต์เกิดไฟไหม้ที่วิหารน็อทร์-ดามในปารีส ส่งผลให้สถาปัตยกรรมอันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองพังลง  แม้สาเหตุของเพลิงไหม้ยังคงไม่แน่ชัด ณ ตอนนี้ แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจมาจากส่วนที่มีการก่อสร้าง

นักท่องเที่ยวและชาวเมืองท้องถิ่นทำได้เพียงยืนมองเมื่อยอดแหลมสูงของวิหารถูกเพลิงลุกไหม้ก่อนจะโค่นลงมา จากรายงานของ NBC ระบุว่า บริเวณยอดแหลมส่วนนั้นเป็นที่เก็บรักษาวัตถุอันมีค่าและเปี่ยมศรัทธาของคาทอลิคหลายอย่าง ทั้งชิ้นส่วนที่คาดว่าสืบทอดมาจากมงกุฏหนามของพระเยซู และวัตถุอื่นๆจากนักบุญ Genevieve และ นักบุญ Denis อาจเสียหายในเหตุการณ์นี้

"แทบทั้งหมดได้รับความเสียหาย" ตัวแทนของน็อทร์-ดามกล่าวกับผู้สื่อข่าว

นอกจากเป็นแหล่งเก็บวัตถุสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ วิหารแห่งนี้ยังผ่านประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆมามากมายตลอดยุคสมัยของฝรั่งเศส อีกด้วย

วิหารน็อทร์-ดามมีอายุเก่าแก่กว่า 850 ปี

วิหารน็อทร์-ดามถูกสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1163 ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 และก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1345 โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ต้องการสิ่งก่อสร้างที่จะ "เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม" โดยหินก้อนแรกถูกนำมาวางเข้าที่เมื่อปี 1163 ในสมัยของพระสันตปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วิหารน็อทร์-ดามได้รับความเสียหาย   

ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสตัวอาคารไม่ได้รับการดูแลตามที่ควร เหมือนกับสภาพที่ถูกระบุไว้ในนวนิยายปี 1831 ของ Victor Hugo เรื่อง “ Notre-Dame of Paris” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ The Hunchback of Notre Dame” (คนค่อมแห่งน็อทร์-ดาม)
ทว่าในปี 1844 สถาปนิกสองคน คือ  Jean-Baptiste-Antoine Lassus และ Eugène-Emmanuel Viollet-le-Duc เริ่มดำเนินการเพื่อนำมหาวิหารกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีตและปรับปรุงทั้งยอดแหลมและส่วนค้ำจุนโครงสร้างของอาคาร

วิหารน็อทร์-ดามเป็นสถานที่ที่เกิดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย

ตามธรรมเนียมนั้นโบสถ์สำคัญๆมักเป็นที่ประกอบพิธีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างการสวมมงกุฎให้กับกษัตริย์องค์ใหม่ หรือการแต่งงานของบุคคลสำคัญ 
ในปี 1431 กษัตริย์เฮนรี่ที่ 6 ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ณ ตอนนั้นรับการสวมมงกูฎเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสด้วย และในปี 1537 กษัตริย์เจมส์ที่ 5 แห่งสก็อตแลนด์แต่งงานกับมาเดอลีนแห่งฝรั่งเศส สุดท้ายในปี 1909 โจน ออฟ อาร์ค ได้รับการประกาศว่าเป็นผู้บริสุทธ์และรับการประสาทพรภายในวิหารนี้โดยพระสันตปาปาปิอุสที่ 10

วิหารน็อทร์-ดามเป็นสถานที่เก็บรักษาทั้งสมบัติหายากและสำคัญยิ่งยวด

ภายในวิหารมีออแกนจากศตวรรษที่ 17 ที่ยังคงสามารถใช้งานได้ถึงปัจจุบัน (แม้ว่าสภาพหลังการเกิดไฟไหม้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าอยู่ในสภาพอย่างไร) นอกเหนือจากนั้นยังมีภาพเขียน แบบแปลน และการแกะสลักที่แสดงถึง "ความเก่าแก่และเรื่องราวของคริสตจักรรวมถึงการกลายมาเป็นปารีสอย่างเช่นทุกวันนี้" อีกด้วย (ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของวิหาร)

จากรายงานของ CBS วิหารยังเก็บรักษามงกุฎหนามถักที่เชื่อกันว่าสวมบนศีรษะของพระเยซูคริสต์ระหว่างการตรึงกางเขน ตามที่ระบุในเว็บไซต์ว่า เป็นมงกุฎที่เป็นรูปวงแหวนมัดด้ายสีทองล้อมอยู่ในกรอบที่ทำจากแก้วและประดับทอง ส่วนหนามนั้นถูกแยกออกและจะถูกมอบให้กับผู้บริจาคและบุคคลสำคัญทางศาสนาตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา



วิหารนี้ยังเก็บรักษาชิ้นส่วนของกางเขนไม้และตะปูที่เชื่อว่าถูกใช้ในการตรึงกางเขนพระเยซูคริสต์ วัตถุที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ ได้แก่ หน้าต่างกระจกสี รูปปั้น ตัวการ์กอยที่คอยรองรับน้ำฝน และอื่นๆอีกมากมาย



"เป็นเวลากว่า 800 ปีที่วิหารแห่งนี้คงอยู่คู่ปารีส" นักประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส Camille Pascal กล่าว "ทั้งเรื่องดีและร้ายตลอดประวัติศาสตร์ ได้รับการยืนยันและก้องกังวาลผ่านเสียงระฆังแห่งวิหารตลอดมา"

และเราขอเฝ้ารอฟังรายงานและเอาใจช่วยให้ทุกอย่างรอดพ้นเปลวเพลิงออกมาได้มากที่สุด หวังว่าทั้งหมดจะสามารถบูรณะกลับมาเหมือนเดิมได้และรอวันที่ได้กลับไปเยือนวิหารแห่งนี้อีกครั้ง...

Cr Pic: GETTY IMAGES
Cr: travelandleisure.com

ความคิดเห็น