ประเทศชิลีแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอนดีสและมหาสมุทรแปซิฟิกและทอดยาวลงมาซึ่งเต็มไปด้วยด้วยภูมิทัศน์เก่าแก่ โดยลักษณะรูปร่างของการวางตัวแบบนี้ทำให้เราจะได้พบเจอกับความหลากหลายของภูมิประเทศตลอดความยาวตามรายทางที่เราผ่าน ไม่ว่าจะเป็น
ทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในทางตอนเหนือ ธารนำ้แข็งขนาดมหึมาในพาตาโกเนียทางตอนใต้ นำ้พุร้อนพวยพุ่งที่ El Tatio และทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ของ Lake District
ลองไปดูบางส่วนที่คัดมานำเสนอของ "ชิลี" กัน
อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine
ภูเขาหินแกรนนิต ทะเลสาบสีฟ้าสวย และที่ราบกว้างที่เต็มไปด้วยตัวคานาโค, Torres del Paine จึงจัดเป็นจุดแวะที่พลาดไม่ได้แห่งนึงของซีกโลกใต้เลยทีเดียว
ตั้งอยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งของชิลีราว 3700 กม. เกาะอีสเตอร์แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟ ทะเลสาบเครเตอร์ หาดทรายสีขาว และรูปสลัก Moai กว่า 900 ต้น
ทะเลสาบการ์เรราและถ้ำหินอ่อน (Cavernas de Mármol, Lake Carrera)
ถ้ำหินอ่อนแห่งทะเลสาบการ์เรรานี้ตั้งอยู่ห่างไกลออกมาแถวพรมแดนระหว่างชิลีกับอาร์เจนตินา เต็มไปด้วยลวดลายสีเขียวและฟ้าบนผนังถ้ำที่หมุนวนและสะท้อนบนผิวทะเลสาบ
บริเวณแถบนี้ทางตอนเหนือของประเทศมีทั้งโรงกลั่นและไร่องุ่นที่ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของชิลี และยังเป็น "Dark Sky Sanctuary" แห่งแรกของโลกด้วย (กำหนดโดย International Dartk-Sky Association; IDA) ซึ่งหมายถึงสถานที่ที่มืดและไร้แสงรบกวน เหมาะกับการมองดูดาวหรือสำรวจท้องฟ้ายามค่ำคืน
ทะเลสาบสีมรกตนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่โดดเด่นด้านวิวทิวทัศน์อีกแห่งหนึ่ง เพราะนอกจากตัวทะเลสาบที่สวยงามเองแล้ว ที่นี่ยังรายล้อมไปด้วย Ojos del Salado ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่สูงที่สุดในโลก
อุทยานแห่งชาติที่กินพื้นที่เข้าไปถึงเทือกเขาแอนดีส บริเวณนี้เต็มไปด้วยระบบนิเวศน์และบ้านของเหล่าอัลปาก้า เสือพูมา นกฟลามิงโก และสุนัขจิ้งจอก และยังมีทะเลสาบ Chungara ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย
เกาะนี้เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของอเมริกาใต้ โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตของผู้คนและบ้านริมน้ำที่ต่อยื่นออกไปโดยมีเสาค้ำ (อันที่จริงริมเจ้าพระยาก็มีนะ) ป่าทึบ และโบสถ์ไม้ทั้งหลังที่เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
เมืองแห่งนี้เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของชิลี (รองจาก Santiago) อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคอานานิคมและชายฝั่งทอดยาว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชิลีในช่วงวันหยุดยาวเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับธารนำ้แข็งเหยียดยาวของ Torres del Paine ซึ่งกั้นเป็นกำแพงน้ำแข็ง และถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งสวยงามและมีชื่อเสียงอย่างมาก
หุบเขาแห่งดวงจันทร์ (Valle de la Luna)
ส่วนหนึ่งของ San Pedro de Atacama แห่งนี้ มีชื่อที่เหมาะสมกับลักษณะที่เหมือนกับหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ด้วยเนินทรายกวาดไปกวาดมาและโขดหินแหลมคมสูงชัน สวยงามที่สุดยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
เกาะ Magdalena (Los Pinguinos)
เกาะแห่งนี้เป็นบ้านของแพนกวิ้นแมกแจลแลนกว่า 60000 ครอบครัว และจัดเป็นแหล่งชมแพนกวิ้นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง มีจุดเด่นแห่งนึง คือ ประภาคารสีแดง
อุทยานแห่งชาติ Conguillio
Conguillio ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 1950 เพื่ออนุรักษ์บริเสณพื้นที่ภูเขาไฟและทะเลสาบอัลไพน์โดยรอบ
น้ำตก Laja แห่งนี้ประกอบด้วยแหล่งน้ำรูปเกือกม้า 4 อันต่อกันตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ตอนกลางของแม่น้ำ Laja ตัวน้ำตกที่มีลักษณะคล้ายน้ำตก Niagara แห่งนี้ไหลลงสู่หุบเขาหินลึกทำให้เกิดละอองน้ำสาดกระเซ็นฟุ้งทั่วบริเวณ
บริเวณทางตอนใต้แห่งนี้เป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีโรงแรมและร้านอาหารกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณทะเลสาบ ภูเขาไฟที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะ และป่าอุทยานแห่งชาติที่รายล้อม
El Tatio, San Pedro de Atacama
แหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้เหมาะที่จะมาเยือนยามเช้าราว 6 โมง เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นพอดีกับที่ปล่องน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
Cr: cntraveler.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น