7 โบสถ์ไม่ธรรมดาที่น่าไปเยือนสักครั้งจากทั่วโลก


ไม่ว่าจะเป็นคนเคร่งศาสนาหรือไม่ นับถือศาสนาอะไร (หรือแม้กระทั่ง "ไม่มีศาสนา" ก็ตาม) โบสถ์ก็มักจะเป็นจุดหมายหนึ่งในแต่ละทริปการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วไปเสมอ ด้วยความที่โบสถ์มักมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ศิลปะตกแต่งภายในที่อลังการ และบทบาทสำคัญที่มีต่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้นๆ โบสถ์บางแห่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่าง "La Sagrada Familia" (ตั้งอยู่ที่ประเทศสเปน และที่นี่ปรากฏเป็นฉากในนิยายเรื่องล่าสุดของ แดน บราวน์ อย่าง "The Origin" ด้วย) "the Sistine Chapel" (วาติกัน เป็นฉากในนิยายของ แดน บราวน์ "Angel & Demon") และ "Hagia Sophia" (อิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นฉากในนิยายของ แดน บราวน์ "Inferno") ในขณะที่ยังมีโบสถ์อีกมากที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักเช่นนี้ ทว่ามีเสน่ห์และน่าไปเยือนไม่แพ้กัน

โบสถ์ 7 แห่งต่อไปนี้เป็นโบสถ์ที่เราอาจแทบไม่เคยได้ยินชื่อ แต่รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้โบสถ์ยอดฮิตอื่นๆเลย และควรค่าแก่การแวะไปเยือนหากไปประเทศเหล่านี้ในทริปคราวหน้า

1. The Pilgrimage Church of Wies, Germany

มองจากภายนอก The Pilgrimage Church of Wies แห่งนี้ดูเป็นสถานที่ธรรมดาๆ ไม่ได้หรูหราและทาสีอึมครึมขาวหม่น ตั้งอยู่บนพื่นที่ชนบทห่างไกลของเทือกเขาแอลป์ ขนาบข้างด้วยทุ่งที่เต็มไปด้วยฝูงม้าและวัว ทำให้เราอาจมองข้ามไม่คิดจะเข้าไปภายใน

แต่ทันทีที่เราย่างเท้าเข้าไปข้างในจะพบกับศิลปะแบบ Rococo อันน่าทึ่งเหนือห้องรูปไข่ที่จะทำให้เราต้องอ้าปากค้าง ด้วยสไตล์การตกแต่งที่ในปัจจุบันเราอาจยากจะเข้าใจ แต่ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 18 นี่ถือว่าเป็นการตกแต่งอย่างมีชีวิตชีวามาก ด้วยภาพเขียนสีเฟรสโกและรูปปั้นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดทำให้โบสถ์ทั้งหลังดูส่องสว่างขึ้นอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคาดหวังจากโบสถ์เมื่อ 260 ปีก่อนในคริสตจักรเยอรมัน

โบสถ์แห่งนี้สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 ในช่วงฤดูร้อน และ 08.00 - 17.00 ในช่วงฤดูหนาว แต่จะไม่สามารถเข้าชมได้หากมีศาสนกิจ จึงควรเช็คตารางพิธีการก่อนล่วงหน้า

2. Trinity Church, Antarctica

โบสถ์ Trinity Church เป็นโบสถ์รัสเซียออร์ทอดอกซ์ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุด ตั้งอยู่บนเกาะ King George ในแอนตาร์กติการ์ ทว่านอกเหนือจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แปลกประหลาดแล้ว อาคารไม้เล้กๆท่าทางบอบบางบนเทือกเขาหินที่มองเห็นช่องแคบ Bransfield แห่งนี้ ทำมาจากต้นสนไซบีเรียซึ่งนำมาจากแถบเทือกเขาอัลไต บริเวณชายแดนระหว่างประเทศคาซัคสถาน จีน และมองโกเลีย ซึ่งเดิมโบสถ์ถูกประกอบขึ้น ก่อนจะถูกแยกชิ้นส่วนและนำมาที่นี่ในปี 2004 โบสถ์ Trinity Church นี้แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลท่ามกลางความมืดของแอนตาร์กติการ์ แต่ภายในกลับหรูหราและประดับประดาไปด้วยกำแพงที่มีภาพเขียนและสัญลักษณ์ทางศาสนา และอาสนะทอง ซึ่งไม่คิดฝันว่าจะมีอยู่ในที่ห่างไกลเช่นนี้


แม้ว่าโบสถ์นี้จะถูกสร้างขึ้นสำหรับพนักงานของสถานีขั้วโลก Bellingshausen Polar Station ของรัสเซีย แต่ใครก็ตามที่มาเยือนเกาะ King George นี้ก็สามารถเข้าชมโบสถ์ Trinity Church ได้และสามารถประกอบพิธีทางศาสนา เช่น แต่งงาน โดยมีบาทหลวงจำนวน 2 คนที่คอยผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าทำหน้าที่ตลอดปี

3. The Church of St. George, Ethiopia

โบสถ์คริสตจักรออร์ทอดอกซ์แห่งเมือง Lalibela ในเอธิโอเปียนี้เป็นโบสถ์ที่สะดุดตา เพราะแกะสลักขึ้นจากหินภูเขาไฟสีแดงในช่วง ศตวรรษที่ 10 ถึง 13 เพื่อให้เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ซึ่งทั้งหมดแล้วมีโบสถ์ที่ทำจากหินเช่นนี้อยู่ 11 แห่งแต่ Church of St. George นี้เป็นที่โดดเด่นที่สุด

โบสถ์ที่ทำจากแท่งหินทั้งก้อนนี้ ตั้งชื่อตามนักบุญอุปถัมป์ของเอธิโอเปีย มีรูปร่างคล้ายกางเขน ตั้งอยู่ในหลุมลึก 36 ฟุต (11 เมตร) ที่ต้องเดินลงบันไดหิน ซึ่งแตกต่างจากโบสถ์อื่นๆในละแวกนี้เนื่องจากไม่มีทางใต้นิดเชื่อมต่อกับโบสถ์อื่นๆที่เรียกว่า "วาดิ" (Wadi)

เมือง Lalibela เปรียบเสมือนเป็นเยรูซาเล็มของเอธิโอเปีย เป็นที่จัดงานแสวงบุญและสำหรับเทศกาลคริสมาสต์เอธิโอเปียที่มักจัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปี

4. Borgund Stave Church, Norway

โบสถ์ Stave churches ถูกสร้างขึ้นจากไม้นำมาแกะสลัก (โดยไม่ใช้ตะปูเลยสักตัวเดียว!) ในยุคกลางทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ซึ่งปัจจุบันมักพบได้ในประเทศนอร์เวย์

โบสถ์หลังที่พบที่หมู่บ้าน Borgund ถูกสร้างขึ้นในปี 1180 และยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้วยลักษณะทรงสูง โครงสร้างทำจากไม้ที่ดูอึมครึม และบนหลังคาประดับด้วยหัวมังกรตามแบบฉบับของชาวไวกิ้งทั่วๆไป ทำให้บรรยากาศยามเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าและหมอกปกคลุมดูชวนหลอนอยู่บ้าง ยังไม่นับข้อเท็จจริงที่ว่ารอบๆโบสถ์เองรายล้อมด้วยป้ายหลุมศพ

อย่างไรก็ตามมีศูนย์สำหรับนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้เรื่องราวและข้อมูลของโบสถ์แห่งนี้เพิ่มเติมได้ด้วย

5. La Sainte Chapelle, France

หากมิได้อยู่ภายใต้เงาของมหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame de Paris) แล้ว โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ (Sainte Chapelle) แห่งนี้อาจถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่สวยที่สุดในปารีสก็ว่าได้ ตัวอาคารตั้งอยู่ห่างจาก มหาวิหารนอเทรอดามเพียงไม่กี่บล็อค ดังนั้นเราจึงสามารถเก็บทั้งสองที่นี้ได้ด้วยเวลาเพียง 1 วันของทริป

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าทึ่งทว่าภายในเองก็ไม่แพ้กัน   ทุกๆด้านของผนังจะมีหน้าต่างกระจกแก้วสีสูง 15 เมตรซึ่งแสดงภาพจากพระคัมภีร์ทั้งภาคพันธะสัญญาเดิม และพันธะสัญญาใหม่ (Old and New Testament) กว่า 1,113 ภาพ

โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาสิ่งสักการะอันสูงค่าของชาวคริสต์ ซึ่งคือมงกุฎหนามของพระเยซูตามตำนานในพระคัมภีร์ ด้วยเหตุนี้ภายในจึงมีการประดับประดาอย่างหรูหรา แม้ว่าความน่าเชื่อถือของวัตถุชิ้นนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ทว่าไม่ได้ทำให้เสน่และมนต์ขลังของสิ่งตกทอดล้ำค่านี้จางหายแต่อย่างใด 

ค่าเข้าชมโบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ นี้ตกประมาณ 10 ยูโรต่อคน ซึ่งถือว่าคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยอธิบายฉากที่ปรากฎบนหน้าต่างกระจกแก้วทั้งหลายผ่านทางแท็บเล็ตหรือมือถือได้อีกด้วยเพียงแค่เปิดกล้องแล้วส่องไปยังเป้าหมาย ซึ่งเราขอแนะนำให้โหลดแอพฯนี้เตรียมไปก่อน เพื่อความเข้าถึงและอรรถรสในการเดินชม

6. Saksun Church, Faroe Islands

ที่ Saksun Church แห่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ของวลีที่ว่า "น้อยคือมาก" (Less is More) ได้เป็นอย่างดี โบสถ์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างไม้ทั้งหลังแบบ Borgund Stave Church หรือหน้าต่างกระจกสีแบบ La Sainte Chapelle ทว่าความพิเศษอยู่ที่ความเรียบง่ายและสภาพแวดล้อม

Saksun Church ตั้งอยู่ท่ี Saskun หมู่บ้านเล็กๆที่ชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือ Streymoy ซึ่งเป็นชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะแฟโรร์ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทะเลสาบที่คอยแสดงให้ดูได้ว่าเป็นช่วงน้ำขึ้นหรือน้ำลง คงเป็นเรื่องยากที่จะหาสถานที่ที่สงบหรือเรียบง่ายเท่านี้อีก

ตัวโบสถ์เองมีขนาดเล็ก เป็นอาคารสีขาวและหลังคาสีเขียวที่ช่วยให้สามารถผสมผสานอย่างลงตัวกับภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่มจนยากจะละสายตา

ความเป็นมาของโบสถ์แห่งนี้เริ่มมาจากในสมัยก่อน ผู้คนชาว Saskun เหน็ดเหนื่ือยกับการที่ต้องเดินทางถึง 27 ก.ม. เพื่อไปยังโบสถ์ที่อยู่ห่างไกลออกไปที่ Tjørnuvík ดังนั้นในปี 1858 โบสถ์แห่งเมือง Tjørnuvík จึงถูกแยกชิ้นส่วนออกอย่างระมัดระวังและนำมาประกอบขึ้นใหม่ที่ Saskun และสร้างด้วยหินแทนที่ไม้ในบางส่วน

มีการจัดพิธีมิสซาทุกๆ 11.00 ของวันอาทิตย์โดยบาทหลวงประจำท้องถิ่น และหากบาทหลวงไม่อยู่ในพื้นที่ก็จะมีพิธีการสวดอธิฐานแทน และโบสถ์แห่งนี้ยังสามารถประกอบพิธีแต่งงานได้ (ลองนึกภาพงานแต่งที่ประกอบด้วยวิวสวยงามของที่นี่เป็นฉากหลังดู!) หากช่วงเวลานั้นมีบาทหลวงอยู่

7. Temppeliaukio Church, Helsinki

หากมองจากด้านนอกโบสถ์ Temppeliaukio  แห่งนี้ดูเหมือนกับอัฒจันทร์ ด้วยลักษณะที่กลม สั้น และยอดโดม ดังนั้นนี่จะไม่ใช่โบสถ์สไตล์ที่เห็นได้ในโซนยุโรปทั่วไปที่มักมียอดแหลมเสียดแทงขึ้นไปบนท้องฟ้า

โบสถ์ Temppeliaukio ถูกขุดออกจากหินและคลุมด้วยโดมทองแดงและคานคอนกรีต คานแต่ละอันแยกออกจากกันด้วยหน้าต่างและชวนให้นึกถึงท่อของออแกนในโบสถ์ทั่วไป (จริงๆ โบสถ์ Temppeliaukio  เองก็มีออแกนเหมือนโบสถ์ปกติเช่นกัน) ซึ่งทำให้เกิดเงาเป็นริ้วสวยงามทอดไปบนผนังโบสถ์ในยามพระอาทิตย์ขึ้น ดังนั้นแล้วจึงควรแวะมาเยือนโบสถ์แห่งนี้ในช่วงเช้าของวัน

แม้ว่าโบสถ์แห่งนี้จะดูออกแบบมาในสไตล์แบบ super modern แต่จริงๆแล้วโบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1969 แล้ว

ค่าเข้าชมโบสถ์นี้ราคาย่อมเยาเพียง 3 ยูโร ซึ่งถือว่าไม่แพง (หากเราอุตส่ามาเที่ยวถึงนี่แล้ว) สำหรับการเข้าชมโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้





-----------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็น