รวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ควรรู้ก่อนไปเยือน “โรม”
![]() |
น้ำพุเทรวี่ ที่มีความเชื่อว่าหากมาโยนเหรียญลงในน้ำพุนี้จะได้กลับมาเยือนโรมอีกครั้ง |
หมายเหตุ : หากทำได้ตามนี้หมด ระวังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นชาวโรม!
อะไรที่นำพาเรากลับมายัง โรม อีกครั้งกัน? อาจไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เช่น โคลอสเซี่ยมอันยิ่งใหญ่ หรือวิหาร แพนธีออน (แม้ว่าทุกครั้งที่มาเมืองนี้เราจะ ‘หาเหตุ’ ให้ได้เตร่ผ่านสองสถานที่นี้แทบทุกครั้งก็ตาม) แต่เป็นความสบายในบรรยากาศเฉกเช่น ‘วิถี’ ชาวโรมโบราณ จากการมองดูวิถีชีวิตจนถึงการกล่าวคำทักทายในแบบพวกเขา ไล่มาที่กาแฟที่พวกเขาดื่ม โรมมอบบรรยากาศนี้แก่คุณทุกครั้งที่มาเยือน
หากคราวหน้าคุณมาที่โรม แล้วอยากซึมซับบรรยากาศหรือทำตัวเป็น ‘ชาวโรม’ ดังสำนวนที่ว่า “when in rome do as the romans do” (หรือ เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม เวอร์ชั่นฝรั่งนั่นแหละ) เพื่อให้กลมกลืนกับกลิ่นอายของสถานที่มากขึ้น นี่เป็นเกร็ดเล็กๆที่เราขอแนะนำ
เริ่มต้นด้วยการทักทาย
มีหลากหลายวีธีการกล่าวคำทักทายเมื่อพบเจอผู้คนในอิตาลี มีทั้งที่เป็นที่รู้จักดีอย่างการกล่าว ‘เชา’ (ciao) ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการ ทักทาย หรือ บอกลา ทว่านี่เป้นการทักทายอย่างค่อนข้าง ‘เป็นกันเอง’ ดังนั้นแล้วหากคุณไปตามภัตตาคารหรือเช็กอินเข้าโรงแรมแล้วละก็ อาจใช้การทักทายที่เป็นทางการขึ้นอีกนิดด้วยการกล่าวว่า ‘บอนโจร์โน’ (buongiorno) แทน และตั้งแต่บ่ายแก่เป็นต้นไป การทักทายนี้จะเปลี่ยนเป็น ‘บวนน่า เซร่าห์’ (buona sera) ที่ความหมายประมาณว่า good evening แทน และการกล่าวราตรีสวัสดิ์ หรือ goodnight ในภาษาอิตาลีปิดท้ายวัน ก็คือ ‘บวนน่า น็อตเต’ หรือ (buona notte) และหากจะกล่าวอำลาในช่วงเวลาระหว่างวันก็เพียงเอ่ยว่า ‘อะริวิเดซี’ (arrivederci) ซึ่งถือว่าสุภาพและมีมารยาท (ความหมายประมาณว่า แล้วพบกันอีก ; see you soon) นั่นเอง
เรียนรู้ภาษาสักเล็กน้อย
ภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในโรม เฉกเช่นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองอื่นๆของยุโรป แน่นอนว่าชาวโรมนั้นรู้สึก ‘ยินดี’ หากผู้มาเยือนพยายามจะสื่อสารด้วยภาษาอิตาเลียน สำหรับโรงแรมและร้านอาหารหลายแห่งอาจมีผู้ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างน้อยสักคนเพื่อรับมือกับกรณีที่คุณไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอิตาเลียนได้ ทว่าอย่างน้อยหากคุณสามารถสื่อสารง่ายๆ เช่น ‘เชา’ หรือคำสุภาพอย่าง ‘กราเซีย’ (ขอบคุณ) ได้ก็คงทำให้บรรยากาศราบรื่นขึ้น หรือประโยคง่ายๆ เช่น ‘สกูซี่ นัน พาโล อิตาลีโน’ (ขอโทษทีครับ แต่ผมไม่เข้าใจภาษาอิตาเลียน) ก็สามารถใช้ได้หลากหลายโอกาสในทริปนี้
การแต่งกาย
ชาวอิตาลีส่วนใหญ่นั้นมีความภาคภูมิใจใน ‘เซ้นต์ด้านแฟชั่น’ การแต่งกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เมืองหลวงแห่งนี้ อย่างน้อยที่สุดคุณสามารถแสดงออกให้กลมกลืนได้จากการเลือกแว่นกันแดดที่ดูดี (ไม่ต้องห่วงหากคุณไม่ได้พกแว่นกันแดดมา มีหลายหลายจุดที่คุณสามารถหาซื้อแว่นกันแดดแบบมีสไตล์ได้ทั่วไปไม่ยากนัก) และผ้าพันคอก็สามารถยกระดับการแต่งกายของคุณได้อีกขั้นหากเลือกเฟ้นอย่างเหมาะสม แม้ใส่คู่กับชุดทั่วไปก็ตาม ส่วนกางเกงยีนนั้นยังถือว่า ดูดี สวมใส่ได้ (ถือเป็นสไตล์แบบหนึ่ง ตราบใดที่ยีนของคุณไม่ใช่ยีนแบบ ‘ขาด’ หรือเป็นรูแบบวัยรุ่นเกินไป) ปิดท้ายด้วยรองเท้าที่เหมาะสมกับการแต่งกายทั้งหมด รองเท้าแตะยังพออยู่ในวิสัยที่ยอมรับได้ (แม้จะไม่เหมาะกับพื้นถนนที่ปูด้วยหินนักก็ตาม) เพียงแค่ให้แน่ใจจริงๆว่ามันออกมา ‘แมทช์’ กับส่วนอื่นๆ
ไปไหนมาไหนในโรม
เป็นเรื่องที่ถึงขั้นท้าทาย หากคุณมีธุระด่วนและต้องรีบแล่นจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในโรม คำแนะนำคือ เผื่อเวลาในการเดินทางทุกครั้ง (ข้อนี้ไม่ต่างจากประเทศไทยเลย) ท้องถนนคลาคล่ำอยู่ตลอด ผู้คนในโรมจึงมักใช้การ ‘เดิน’ อย่างสบายๆไปไหนมาไหนมากกว่า ทว่าหากคุณกำลังรีบอยู่จริงๆแล้วล่ะก็ ตัวเลือกหนึ่งคือใบ้บริการ แท็กซี่สีขาว ซึ่งหาเรียกได้ตามท้องถนนทั่วเมือง อย่างไรก็ตามดปรดจำไว้ว่า เมื่อคุณข้ามถนนรถจะยังไม่มีท่าทีหยุดให้คุณแต่คุณสามารถเดินข้ามทางม้าลายได้เลย เพราะคนขับรถจะชะลอความเร็วเมื่อเห็นคุณกำลังข้ามทางม้าลาย นอกจากนี้รถไฟใต้ดินของเมืองนี้ก็พัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ปัจจุบันในเส้นทางการเดินรถที่สาม (the third line) ได้เปิดให้บริการเพิ่มเติมเมื่อปลายปีก่อน แม้ว่าจะแออัดเล็กน้อยทว่าก็มีราคาไม่แพง (วิธีนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการไปเยี่ยมชมโคลอสเซี่ยม เพราะมีสถานีที่ขึ้นมาแล้วเจอโคลอสเซี่ยมเลย) แต่ก็อย่างว่า โรมเป้นเมืองที่ไม่ใหญ่นัก และสถานที่ต่างๆก็อยู่ในระยะเหมาะสมที่สามารถเดินถึงกันได้ไม่ไกลมาก หากคุณมีเวลา เราแนะนำให้ทัวร์เมืองด้วยการเดิน จะดีที่สุด
ร้านกาแฟ
หลังบ่ายโมง กาแฟที่คุณควรสั่งควรเป็น เอ็กเพรสโซ่ หรือ มัคคีอาโต เนื่องจาก ลาเต้และคาปูชิโน นั้นสำหรับช่วงเช้าเท่านั้น! และหากคุณกำลังสั่งลาเต้ ต้องพูดว่า “แคฟเฟ่ (เน้นเสียงพยางค์หลัง) ลาเต้” แทนการเอ่ยเพียงว่า “ลาเต้” เฉยๆ ไม่งั้นแล้วคุณจะได้ นมร้อน หนึ่งแก้ มาแทน! และหากอยากให้ดูเท่กว่านั้น แทนที่จะสั่ง คาปูชิโน ให้สั่งว่า คาปูชิโอ (cappucio) แทนให้เหมือนแบบชาวโรม และหากคุณต้องการนั่งทานกาแฟในร้าน อาจมีราคาแพงกว่าปกติ และเมื่อยืนรอจนได้กาแฟของคุณแล้วโปรดออกไปยืนรอเพื่อนของคุณที่หน้าร้านแทนเพื่อหลีกทางให้ลูกค้าคนต่อไป
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
Do : ลองสละเวลาเพื่อสนทนากับผู้คนท้องถิ่น ไม่ว่าจะคนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่โรงแรม หรือผู้คนในร้านอาหาร ชาวโรมนั้นอบอุ่นและเป็นมิตร และหลายคนพร้อมจะสนทนากับคุณเกี่ยวกับร้านอาหารอิตาลีดีๆแถวนั้น หรือเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเมืองให้คุณฟัง
Don’t : อย่ายืนขวางประตูบนขนส่งสาธารณะ อาจจะทำได้ยากยิ่งในกรณีที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน ทว่าเป็นธรรมเนียมสากลในการเว้นช่องว่าบริเวณทางออกสำหรับผู้ที่จะลงเสมอ เนื่องจากรถใต้ดินและรถบัสมักจอดให้ลงเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่หากคุณขวางทางลงและไม่สามารถหลีกทางได้ ก็ขอให้ก้าวลงไปก่อนแล้วค่อยก้าวกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น