6 เหตุผลที่ทำให้ประเทศ ไอซ์แลนด์ เป็นตัวเลือกสำหรับการไป Road Trip ครั้งหน้า
"เลยจากเมือง 'เรคยาวิค' (Reykjavik) ไปนั้นมีเพียง ทุ่งลาวา บ่อน้ำพุร้อน ที่พักแสนผ่อนคลาย และถนนเปิดที่ทอดยาว..."
ในอดีตที่ผ่านมา ด้วยความที่อยู่ไกลกันถึงคนละซีกโลก หากพูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศ “ไอซ์แลนด์” อาจหมายถึงเพียงการนอนในโรงแรมที่เมืองหลวง 'เรคยาวิค' ในโรงแรมธรรมดาๆ แล้วซื้อทัวร์ไปท่องเที่ยวในบริเวณที่ถูกเรียกว่า 'Golden Circle' (ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ 3 บริเวณ คือ อุทยานแห่งชาติ Þingvellir, Geysir Geothermal และน้ำตก Gullfoss waterfall) ระยะทางราว 300 กิโลเมตร วนผ่านน้ำตกและน้ำพุร้อนนอกเมือง และอาจปิดท้ายด้วยการลงแช่ Blue Lagoon ที่ Grindavik ก่อนตรงกลับเข้าสู่สนามบินที่ Keflavik เพียงเท่านี้ก็อาจกลับบ้านได้โดยอิ่มเอมใจว่าได้มา ‘ถึง’ ไอซ์แลนด์แล้ว
ทว่าแน่นอนว่าไอซ์แลนด์ยังมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ...
ปัจจุบันด้วยพลังของ อินเทอร์เนต ทำให้เรามีข้อมูลและรู้จักประเทศที่แสนไกล ทว่าน่าหลงไหลและเจือด้วยกลิ่นอายของประเทศแถบสแกนดิเนเวียร์ประเทศนี้เยอะขึ้น
รวมถึงกระแสการ ‘ใช้ชีวิต’ (live a life!) การท่องเที่ยว การค้นหาตัวเอง การเดินทาง และการ...อะไรอื่นๆอีกมากมายของยุคสมัยวัยเรา ที่ปลุกเร้าให้เราอยากลุกขึ้นมาออกท่องโลกกัน
หลายๆคนอาจคิด หรือมีโครงการ ปักหมุดหมายให้ ไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งเป้าหมายปลายทางในอนาคตกันไว้บ้างแล้ว
บทความนี้เพียงแค่อยากจะ ‘ย้ำ’ ‘ซ้ำเติม’ (หรือ ‘ขยี้’) ลงไปอีกทีด้วยประสบการณ์ตรงของผู้เขียนว่า อะไรบ้างที่ทำให้ผม ‘แนะนำมากๆ’ ว่าควรไปประเทศนี้
- แสงเหนือ (Aurora Borealis)
- วิวทิวทัศน์
- ช่วงเวลาที่สามารถเที่ยวได้แทบทุกฤดู ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวมักจะกลับมาเยือนซ้ำ ในช่วงเดือนและฤดูที่ต่างจากทริปครั้งแรก เนื่องจากในแต่ละฤดูของประเทศไอซ์แลนด์นั้นให้ภาพความสวยงามของวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละสถานที่ [2]
- ฤดูหนาว : ช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นๆเดือนมีนาคม อากาศอยู่ที่ประมาณ -3 ถึง 3 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาที่วิวทิวทัศน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยอดเขา Kirkjufell อันโด่งดังหรือทะเลสาบ Myvatn หรือน้ำตกต่างๆ ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน และกลายเป็นน้ำแข็ง รวมไปถึงช่วงเวลากลางคืนที่ยาวนานกว่ากลางวัน ทำให้มีเวลาในการเฝ้ารอและเพิ่มโอกาสในการพบเจอแสงเหนือมากขึ้น เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาล่าแสงเหนือเลยทีเดียว อีกทั้งการเที่ยวชม "ถ้ำน้ำแข็ง" ที่สามารถเข้าชมได้แค่ช่วงเวลานี้ของปีด้วย
- ฤดูใบไม้ผลิ : ช่วงเดือนเมษายนถึงปลายพฤษภาคม อากาศอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 10 องศาเซลเซียส จะได้ชมวิวทิวทัศน์ของหิมะบนยอดเขาที่ยังไม่ละลาย ตัดสลับกับหิมะช่วงตีนเขาที่เริ่มละลายก่อนแล้ว เกิดเป็นสีสันของหญ้าที่ถูกทับถมด้วยหิมะจากปีก่อน และหญ้าใหม่ที่เพิ่งแทงยอดสีเขียว เป็นช่วงเวลาที่กลางวันกับกลางคืนยาวนานพอๆกัน
- ฤดูร้อน : ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อากาศอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 14 องศาเซลเซียส อากาศกำลังสบาย ช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานกว่ากลางคืน เหมาะสมกับการขับรถตระเวนเที่ยวได้ยาวนานขึ้น เกิดจากปรากฏการณ์ "พระอาทิตย์เที่ยงคืน" (ซึ่งจริงๆสามารถเห็นพระอาทิตย์ได้ถึงราวตีสามด้วยซ้ำ) ร้านค้าเปิดทำการนานขึ้น (ชดเชยกับช่วงฤดูหนาวที่ต้องปิดเร็ว) วิวทิวทัศน์ของดอกไม้หลากสีสันและหญ้าสีเขียวสดเบื้องหน้าของน้ำตกมหึมา สัตว์เลี้ยงออกมาตามท้องทุ่งและมอสเขียวขจีบนทุ่งก้อนหินลาวา
- ฤดูใบไม้ร่วง : ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤษจิกายน อากาศอยู่ที่ประมาณ -1 ถึง 11 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสเจอฝนมากที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยสีสันทั้งแดงและส้มของใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าฤดูหนาว ตัดกับสีเขียวของมอสและมีภูเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะตระหง่านอยู่เบื้องหลัง
- ความปลอดภัย
- การเดินทาง ไม่ยากและไม่แพงก็ได้
- ขับรถชิดขวาเป็นหลัก (ตรงข้ามกับประเทศไทยที่ขับชิดซ้าย)
- การเลี้ยวตามทางแยกมักใช้ระบบ "วงเวียน" แทนการใช้ไฟเขียวไฟแดงแบบบ้านเรา ซึ่งในความรู้สึกผู้เขียน ทำให้รถไม่ติดด้วย เพราะสามารถไหลตามๆกันไปในวงเวียนได้ แล้วใช้การบอกทางแยกที่เราจะออกเป็น Exit1 หรือ Exit2 แทน (และแน่นอนว่าหลักการคือ ให้รถในวงเวียนไปก่อน อย่าลืมข้อนี้นะครับ ไม่งั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้)
- จำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัด (เน้นว่า "เคร่งครัด" นะครับ) ข้อนี้อาจทำยากสำหรับนิสัยชาวเราหน่อย แต่ละบริเวณของไอซ์แลนด์จะมีการจำกัดความเร็วของรถให้เหมาะสม เช่น ในตัวเมืองจะถูกจำกัดความเร็วที่ 50 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัย และจะมีกล้องคอยตรวจจับความเร็วด้วยเมื่อถึงจุด (ซึ่ง GPS มักจะคอยเตือนเราให้ระวังตำแหน่งของกล้องตรวจจับเหล่านี้) และอย่าคิดว่าหนีกลับไทยแล้วจะรอดนะครับ เพราะหากเราฝ่าฝืนจะมีใบสั่งตามมาเก็บค่าปรับ (แปลงเป็นเงินไทยแล้วมหาศาล แพงโข) ทีหลัง ซึ่งหากเบี้ยวไม่จ่ายเพราะคิดว่าอยู่ไทยแล้ว ก็ระวังส่งผลถึงการขอวีซ่าในทริปถัดไปนะครับ
- สะพานแบ่งกันไป ในบางเส้นทางอาจเจอกับสะพานข้ามทะเล แม่น้ำ หรือทะเลสาบซึ่งเป็นสะพาน 'เลนเดียว' ทอดยาว ซึ่งเราจะต้องคอยดูก่อนข้ามว่าไม่มีรถวิ่งมา เราถึงจะข้ามไปได้ครับ
- ตรวจเช็คสภาพเส้นทางก่อนเดินทาง เพราะบางกรณีอาจมีอุบัติเหตุ หรือมีหิมะตกทำให้บางเส้นทางไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะมีบอกในเว็บไซต์ของทางการ ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ทัน (แต่เนื่องจากถนนเส้นหลักมีเส้นเดียว ดังนั้นถนนเส้นนี้มักจะมีการเคลียร์พื้นที่ให้สามารถเดินทางได้แทบจะตลอดเวลา แต่รอบคอบไว้ก็ดีกว่าเนอะ)
ถนนเส้นหลักที่พาเราเดินทางผ่านสภาพอากาศที่แตกต่างกัน - งบประมาณ สามารถประหยัดได้ถ้าแบกอาหารไป ไม่แพงอย่างที่คิด
![]() |
โลกเมื่อมองเข้าหาขั้วโลกเหนือ และเส้นอาร์คติกเซอเคิล (สีน้ำเงิน) กับเกาะไอซ์แลนด์จุดสีส้มเข้มเล็กๆซ้ายล่าง |
![]() |
ทุ่งธารน้ำแข็งที่เป็นฉากถ่ายทำดาวน้ำแข็งในภาพยนต์เรื่อง Interstellar |
![]() |
ชายหาดสีดำและก้อนหินรูปร่างแปลกตา |
![]() |
น้ำตกขนาดมหึมาที่อลังการสุดๆ |
![]() |
อุณหภูมิในช่วงต่างๆของปีของประเทศไอซ์แลนด์ |
![]() |
วิวทิวทัศน์ที่สงบสุขของเมืองเล็กๆ ชื่อ Vik ทางตอนใต้ |
![]() |
เส้นสีน้ำเงินแสดงถนนหมายเลข 1 ที่วิ่งวนรอบไอซ์แลนด์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ |
"ไม่แพงเกินเอื้อม และลดลงได้อีกหากอดทนได้มากพอ" ขอขีดเส้นใต้ย้ำอีกทีตรง "ไม่แพงเกินเอื้อม" เพราะไม่ใช่ว่าการไปดูแสงเหนือจะต้องแพงเสมอไป (แต่ก็อย่างว่าเนอะ นิยามคำว่า 'แพง' ของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าฐานะแบบผู้เขียนยังไปได้ คนส่วนมากก็คงไปได้แหละครับ T_T)
![]() |
ตัวอย่างอาหารซองพร้อมทานที่พกไปด้วย |
หวังว่าเหตุผล 6 ข้อนี้จะเพียงพอให้ "คุณ" อยากไปเยือนประเทศแห่งไฟและน้ำแข็ง (Land of Ice and Fire) นี้มากขึ้นนะครับ :)
*แรงบันดาลใจประสบการณ์ตรงที่โครตประทับใจจากประเทศนี้
[1] : https://www.bugbog.com/
[2] : https://www.responsibletravel.com/holidays/iceland/travel-guide/best-time-to-visit-iceland
[3] : http://www.icelandnaturally.com/article/iceland-named-1-most-peaceful-country-world-again
[4] : https://guidetoiceland.is/
-----------------------------------------------------------------------------------
*แรงบันดาลใจประสบการณ์ตรงที่โครตประทับใจจากประเทศนี้
[1] : https://www.bugbog.com/
[2] : https://www.responsibletravel.com/holidays/iceland/travel-guide/best-time-to-visit-iceland
[3] : http://www.icelandnaturally.com/article/iceland-named-1-most-peaceful-country-world-again
[4] : https://guidetoiceland.is/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น