12 สถานที่ที่จะทำให้คุณอยากไปเที่ยวออสเตรีย
มีไม่กี่ที่ในโลกที่เป็นเหมือน ‘ออสเตรีย’ ที่ซึ่งธรรมชาติและเมืองมีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้กัน เนินเขามีชีวิตชีวาด้วยหิมะปกคลุมเหมาะแก่การเล่นสกี ทะเลสาบที่ก่อรูปตั้งแต่สมัยยุคโบราณ และทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าแปลกตา ในขณะเดียวกันตัวเมืองของออสเตรียก็ถูกกล่าวขานว่าเป็นที่สุดของยุโรป จากเมืองแห่งวัฒนธรรม ‘เวียนนา’ สู่ดินแดนที่ราวกับหลุดมาจากในหนังสือนิทานอย่าง ‘ฮัลล์สตัทท์’ รูปภาพต่อไปนี้จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่าประเทศนี้ช่างน่าไปเยือนเพียงใด
1. ฮัลล์สตัทท์ (Hallstätt)
ด้วยบ้านเรือนจากสมัยศตวรรษที่ 16 ประชากรที่เบาบาง (ไม่ถึง 800 คน) และตำแหน่งที่ตั้งริมทะเลสาบท่ามกลางเทือกเขาดัคชไตน์ (Dachstein Mountains) ทำให้ Hallstätt เป็นเมืองที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายสู่โลกแห่งความจริง (และแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาว แต่ที่นี่ก็ยังสวยงามไม่แพ้ช่วงฤดูอื่นๆของปี)
2. อินส์บรุค (Innsbruck)
รายล้อมไปด้วยเนินสำหรับเล่นสกีในช่วงฤดูหนาวและเส้นทางปีนเขาในฤดูร้อน อินส์บรุค เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย เมืองหลวงของรัฐทีโรล (Tyrol) แห่งนี้ยังมีทั้งพิพิธภัณฑ์ ย่านเมืองเก่าจากยุคกลาง และ สวนสัตว์ที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป (Alpenzoo) อีกด้วย
3. อุทยานแห่งชาติโฮเฮอร์เทาแอร์น (Hohe Tauern National Park)
4. อะควาโดม
อะควาโดมแห่ง ‘แลงเกินเฟลด์’ (Längenfeld) นั้นราวกับสปาที่หลุดออกมาจากหนังไซไฟ โครงสร้างที่ดูทันสมัยโดดเด่นออกมาจากภูเขาเอิตซตัล (Ötztal) แห่งเทือกเขาแอลป์ และสระน้ำทรงยูเอฟโอ 2 สระที่มีน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 36 องศาเซลเซียส
5. ทะเลสาบสีเขียว
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ทะเลสาบสีเขียวของออสเตรียแห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่ถูกโอบล้อมด้วยเส้นทางเทรกกิ้งยอดนิยม แต่ในฤดูใบไม้ผลิเมื่อหิมะจากบนภูเขาเริ่มละลายจนระดับน้ำทะเลสาบเพิ่มขึ้น จนกระทั่งราวเดือนมิถุนายน สวนสาธารณะโดยรอบจะถูกน้ำท่วมมิด กลายเป็นสถานที่ดำน้ำที่ไม่เหมือนใครแห่งหนึ่งของโลก
6. พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace)
พระราชวังเชินบรุนน์เดิมเป็นสถานที่ตากอากาศในฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก (Habsburgs) เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเวียนนาจำนวนกว่า 2.7 ล้านคนต่อปี เหล่าฝูงชนต่างพากันมาเข้าชมพระราชวังที่ตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมบาโร้ค ราชอุทยาน และพิพิธภัณฑ์ภายใน
7. ฮุนเดอร์ตวาสเซอร์เฮาส์ (Hundertwasserhaus)
ศิลปินและสถาปนิกชาวออสเตรีย ‘ฟรีเดนส์ไรช์ ฮุนเดอร์ตวาสเซอร์’ (Friedensreich Hundertwasser) เป็นที่รู้จักด้วยการออกแบบอาคารที่โดดเด่น พื้นที่ไม่สม่ำเสมอ สีสดสว่างหลากหลาย และพืชพรรณที่ปลูกแซมอย่างแปลกตา ตัวอย่างที่แสดงรูปแบบผลงานของศิลปินผู้นี้ คือ ฮุนเดอร์ตวาสเซอร์เฮาส์ (ในรูป) เป็นอพาร์ทเม้นต์รูปลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบฉบับของศิลปินที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1980 และบริเวณนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และพื้นที่แสดงงานศิลป์อีกด้วย
8. ปราสาท Hochosterwitz
จะเรียกว่ามาถึงยุโรปได้อย่างไรถ้าไม่ได้เข้าชมปราสาทสักหลังสองหลัง และปราสาท Hochosterwitz ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 860 นี้แสดงความตื่นตาแก่เราตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น ตัวปราสาทตั้งอยู่บนผาหินปูนสูง 171 เมตรในรัฐคารินเทีย (Carinthia) ปราสาทแห่งยุคกลางนี้ประกอบด้วยประตูรักษาการณ์ 14 แห่งและมีโบสถ์ภายใน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมช่วงเดือน พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
9. เทศกาลเบรเกนซ์ริมทะเลสาบคอนแสตนซ์ (Bregenz Festival, Lake Constance)
ทะเลสาบคอนแสตนซ์อยู่ริมชายแดนระหว่างประเทศออสเตรีย เยอรมันนี และสวิสเซอแลนด์ ผู้คนต่างมารวมตัวกันในช่วงฤดูร้อนเพื่อแล่นเรือหรือลงว่ายน้ำ หากคุณมีโอกาสแวะผ่านมาในช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง สิงหาคม จะได้พบกับเทศกาลศิลปะประจำปีของเบรเกนซ์ ซึ่งเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 1946 เป็นโอเปร่าและบรอดเวย์บนเวทีลอยน้ำพร้อมโปรดักชั่นและฉากสุดอลังการที่หาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
10. เมืองซาร์ลบูร์ก (Salzburg)
เมืองบ้านเกิดของคีตกวีเอกของโลก “โมสาร์ท” (Mozart) และ “วอน แทรป” (Von Trapps) เมืองซาร์ลบูร์กยังคงเป็นที่นิยมของผู้รักในเสียงดนตรีและนักท่องเที่ยว มีจุดที่น่าสนใจทั้ง ขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยยูเนสโก พระราชวังและสวนมิราเบลล์ (ในรูป) และ Bräustübl zu Mülln ซึ่งเป็นโรงเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย
11. เทือกเขาอัลเบิร์ก (Arlberg)
สำหรับสถานที่เล่นสกีที่ดีที่สุดบนแนวเทือกเขาแอลป์แล้ว คงไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าเทือกเขาอัลเบิร์ก ทั้งเนินสกีที่มีประวัติยาวนานและหมู่บ้านที่ล้อมรอบที่มีมากกว่าจุดขึ้นลิฟต์สกี โบสถ์และสถาปัตยกรรมอันทันสมัยและเดินเล่นบนถนนสายหลักอันงดงาม
12. กราซ (Graz)
เมืองกราซซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของออสเตรียแห่งนี้มักถูกมองข้ามไป ทว่าที่นี่สมควรแก่การเป็นหนึ่งในจุดหมายของเรา เมืองแห่งนี้ถูกขนานนามให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี 2003 กราซยังคงโดดเด่นด้วยการผสมผสานของอาคารทรงเหลี่ยมทันสมัยกับส่วนเมืองเก่าที่ถูกรักษาไว้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น